ยาทาเล็บเจล เป็นหนึ่งในประเภทของยาทาเล็บที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีความคงทนสูง มีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย จนทำให้ใครหลายคนต่างตกหลุมรัก แถมยังสามารถใช้งานได้ง่ายชนิดที่ว่า สาว ๆ ทั้งหลายสามารถนั่งทำเล็บได้ด้วยตัวเองที่บ้าน โดยไม่ต้องพึ่งพาร้านเสริมสวยเลยทีเดียว ด้วยความเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงนี่เอง น้ำยาทาเล็บเจลจึงมีวางจำหน่ายทั่วไปตามท้องตลาดมากมายหลากหลายแบรนด์ ในการจะเลือกซื้อน้ำยาทาเล็บเจลที่ดีที่สุดให้กับตัวเองนั้น คุณจะต้องมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับเกณฑ์ที่ควรนำมาใช้เลือกซื้อน้ำยาทาเล็บเจลเหล่านี้ก่อน
เพราะฉะนั้น เดี๋ยวเราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเลือกยาทาเล็บเจลไปพร้อม ๆ กับการจัดอันดับน้ำยาทาเล็บเจลที่ดีที่สุด 10 อันดับกันนะคะ จะเป็นอย่างไรและน่าสนใจขนาดไหน ต้องติดตามกันค่ะ !
หากจะให้นิยามแบบเข้าใจง่ายแล้วล่ะก็ ยาทาเล็บเจล คือ ยาทาเล็บในรูปแบบที่รวมเอาลักษณะของยาทาเล็บปกติ มารวมเข้ากับเจลสำหรับต่อเล็บนั่นเองค่ะ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เราจึงสามารถแต่งเล็บให้ออกมาสวยได้ดั่งใจ โดยไม่ต้องใช้การตะไบหน้าเล็บให้ยุ่งยากเหมือนการต่อเล็บเจลเลยค่ะ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่แต่เดิมมีปัญหาเล็บบางจนรู้สึกเจ็บได้ง่าย เพราะเนื้อเจลมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเล็บของเราได้เป็นอย่างดีค่ะ
สำหรับยาทาเล็บเจลนั้น มีอยู่ในรูปแบบกระปุกที่ทางร้านเสริมสวยมักใช้กัน สามารถนำมาผสมกันเพื่อให้ได้สีใหม่ ๆ ได้ หากจะใช้ยาทาเล็บเจลแบบนี้ จะต้องอาศัยฝีมือและเทคนิคที่ชำนาญ ส่วนอีกแบบหนึ่งเป็นขวดยาทาเล็บพร้อมกับแปรงซึ่งเป็นแบบที่เราเห็นกันทั่ว ๆ ไปตามท้องตลาด ยาทาเล็บเจลแบบนี้จะสามารถใช้งานได้ง่ายกว่า เหมาะสำหรับคนทั่วไปหรือมือใหม่ที่อยากลองทำเล็บเจลด้วยตัวเองค่ะ
เมื่อได้เข้าใจความหมายและรู้จักเกี่ยวกับยาทาเล็บเจลกันไปแล้ว ต่อไป เรามาดูวิธีการเลือกยาทาเล็บเจลกันเลยค่ะ !
เวลาคุณเลือกซื้อยาทาเล็บ สิ่งแรกที่คุณนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกคงหนีไม่พ้นเรื่องของเฉดสีและเนื้อสัมผัสที่ชอบ เช่น ยาทาเล็บเนื้อแมตต์, เนื้อกลิตเตอร์ หรือโทนสีสะท้อนแสง เพราะแน่นอนอยู่แล้วว่าใคร ๆ ก็ย่อมมีสีที่ชอบและอยากให้มันมาอยู่บนเล็บสวย ๆ ของเรา แต่เพื่อให้การทาเล็บไม่ซ้ำซากจำเจจนเกินไป คุณควรเลือกชุดของโทนสีจากสีที่ชื่นชอบ ยิ่งถ้าหากชุดสีดังกล่าวมีอยู่ในน้ำยาทาเล็บที่มีเนื้อสัมผัสแบบที่คุณโปรดปรานด้วยแล้วล่ะก็ รับประกันได้เลยค่ะว่าการทาเล็บของคุณจะสนุกและมีความสุขมาก ๆ เลยล่ะค่ะ
นอกจากนี้ เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบดูด้วยว่า คุณสมบัติเบื้องต้นของทั้งสีและเนื้อสัมผัสปรากฎอยู่ในยาทาเล็บแบบเจลจากยี่ห้อที่คุณใช้อยู่เป็นประจำหรือไม่ เพราะยี่ห้อก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สีและเนื้อสัมผัสแตกต่างกันออกไป แม้จะระบุว่าเป็นสีและเนื้อสัมผัสเดียวกันก็ตาม
หลายคนอาจไม่มีเวลามากพอในการทำเล็บแต่ละครั้ง โดยอาจมีสาเหตุมาจากการทำงานหรือการต้องเลี้ยงดูบุตร เพราะฉะนั้น หากคุณสามารถเลือกซื้อยาทาเล็บที่ช่วยลดทอนขั้นตอนหรือระยะเวลาในการทำเล็บลงได้ก็จะดีมาก ๆ เลยทีเดียวค่ะ
เช่น คุณอาจลองเลือกใช้ "ยาทาเล็บแบบกึ่งเจล" แทนการใช้ยาทาเล็บเจลแบบปกติ เนื่องจากยาทาเล็บรุ่นนี้ นอกจากจะมีลักษณะทางกายภาพที่คล้ายคลึงกับยาทาเล็บเจลทั่วไปแล้ว ยังมีข้อดีด้านความประหยัดเวลา ที่จะทำให้คุณถูกอกถูกใจได้ง่าย ๆ เลยล่ะค่ะ มาดูกันดีกว่าว่ายาทาเล็บแบบกึ่งเจลจะสามารถช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการทำเล็บได้อย่างไรบ้าง
สาว ๆ ต่างก็ทราบกันดีว่า ในการจะทำเล็บเจลนั้นจะขาดขั้นตอนการอบเล็บให้แห้งไม่ได้เลย เนื่องจากยาทาเล็บเจลไม่สามารถแห้งได้ด้วยวิธีตามปกติ แถมหลังจากการอบยังทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะ ที่พาลทำให้นึกว่าเล็บยังไม่แห้งไว้อีกเสียด้วย แม้ว่าการจัดการกับคราบเหนียวจะไม่ได้ยากลำบากอะไร แต่กับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาแล้ว ขั้นตอนนี้ก็ไม่ค่อยน่าอภิรมย์นักจริงไหมล่ะคะ?
แต่ถ้าหากคุณใช้ยาทาเล็บแบบกึ่งเจลแทนแล้วล่ะก็ คุณจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นอีกต่อไปค่ะ เนื่องจากยาทาเล็บแบบกึ่งเจลคือยาทาเล็บแบบปกติที่มีเนื้อสัมผัสเหมือนกับเจล เมื่อทาออกมาแล้วจึงดูสวยงาม แวววาว ไม่ต่างกับการทำเล็บเจลเลย เพียงแต่คุณไม่ต้องใช้เครื่องอบเพื่อทำให้เล็บแห้ง แถมยังแห้งได้ไวชนิดที่ว่าทาปุ๊บก็สามารถทำอย่างอื่นต่อได้แทบจะทันทีเลยทีเดียว นี่จึงถือเป็นข้อดีประการแรกสำหรับยาทาเล็บแบบกึ่งเจลเลยล่ะค่ะ
หากคุณเป็นคนเบื่อง่ายและชอบเปลี่ยนสีของเล็บบ่อย ๆ แต่กลับไม่ค่อยมีเวลามากนัก การเลือกใช้ยาทาเล็บแบบกึ่งเจลจะเป็นการตอบโจทย์อย่างดีที่สุดเลยล่ะค่ะ เนื่องจากบางยี่ห้อถูกผลิตขึ้นมาให้สามารถลอกออกมาได้อย่างง่ายดาย เมื่อเวลาที่อยากจะเปลี่ยนสีเล็บเพราะเบื่อหรืออะไรก็ตามแต่ จึงสามารถขจัดสีเล็บเดิม ๆ ออกได้แบบหมดจดอย่างรวดเร็ว แต่ข้อดีที่ว่ามา ก็ต้องแลกมากับการที่ยาทาเล็บแบบนี้จะไม่ค่อยคงทนสักเท่าไร หากไม่ระมัดระวังก็อาจหลุดลอกก่อนเวลาที่ควรได้ง่ายค่ะ
และแม้ว่ามันอาจไม่คงทนเท่ากับยาทาเล็บเจลแบบทั่ว ๆ ไป แต่ต้องยอมรับเลยว่าข้อดีของมันช่วยดึงดูดใจของผู้คนได้ดีสุด ๆ เพราะการล้างเล็บเจลแบบทั่วไป อาจจะต้องไปล้างออกถึงที่ร้านเสริมสวยซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายตามมา หรือใช้การฟอยล์ห่อเล็บกับสำลีชุบ Acetone 100% ที่กินเวลาตั้งแต่ 15-30 นาทีแทน ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาเป็นอย่างยิ่ง หากคุณเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านี้ เราก็ขอแนะนำให้คุณเลือกใช้ยาทาเล็บที่เมื่อทาแล้วได้ผลไม่ต่างกัน แต่มีข้อดีด้านการประหยัดเวลาจะดีกว่าค่ะ
เครื่องอบเล็บจะทำการฉายแสงลงบนเล็บของเรา เพื่ออบยาทาเล็บให้แห้งสนิท โดยแสงจากเครื่องอบเล็บมีอยู่หลัก ๆ 2 ประเภท คือ แสง UV และแสง LED หากคุณเลือกใช้ไม่ถูกต้อง หรือไม่เข้ากันกับยาทาเล็บที่ใช้อยู่ จะส่งผลให้เล็บแห้งช้ากว่าปกติหลายเท่า หรืออย่างแย่ที่สุดก็อาจจะไม่แห้งเลยก็เป็นได้
ประการต่อมา คือ ระยะเวลาที่ใช้ในการอบ การที่เล็บของเราจะแห้งช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับจำนวนและประเภทของหลอดไฟที่ฉายแสงออกมาด้วยนะคะ สำหรับยาทาเล็บแบบเจล เราขอแนะนำให้เลือกใช้เครื่องอบที่เป็นไฟ LED และมีจำนวนหลอดไฟหลาย ๆ หลอด จะช่วยให้แห้งได้ไวกว่า ให้งานเล็บออกมาดูดี ดูสวยแบบสมูท ๆ นั่นเองค่ะ
เป็นที่ทราบกันนะคะว่า ยาทาเล็บเจล แม้ว่าจะมีความเงาสวยติดทนทาน แต่ก็มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและใช้เวลาทำนาน ทำให้บางครั้งหลายคนติดปัญหาตรงที่ไม่ค่อยจะมีเวลาสักเท่าไหร่ ดังนั้น ทีมงานจึงได้นำบทความสีทาเล็บสีสวยแบบต่าง ๆ มาให้สาว ๆ เอาไว้พิจารณากันด้วย จะมีแบบไหนน่าใช้กันบ้าง ลองเข้าไปชมกันเลยค่ะ
และนี่ก็เป็นยาทาเล็บเจลทั้ง 10 อันดับ ที่ทางผู้เขียนได้หยิบมาแนะนำกันนะคะ แต่ละยี่ห้อก็จะมีลักษณะเด่นและชุดสีที่แตกต่างกันออกไปค่ะ คุณผู้อ่านสามารถเลือกดูตัวที่สนใจและคิดว่าเหมาะกับตัวเองได้ตามสะดวกเลยนะคะ
มาเริ่มกันที่อันดับ 10 ก่อนเลยนะคะ ด้วยยาทาเล็บเจลขวดขนาดพอเหมาะมือตัวนี้ ซึ่งมีโทนสีให้เลือกราว ๆ 38 สีด้วยกัน เป็นโทนสีที่มาในสไตล์ญี่ปุ่น ทั้งดูอบอุ่นและดูเป็นผู้ใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่กำลังอยู่ในวัยทำงาน ที่อยากจะให้ปลายนิ้วของคุณดูสวยงาม สะอาดสะอ้านและดูภูมิฐานไปในตัว นอกจากนี้ยังสามารถถอดเล็บเจลออกเองได้ที่บ้าน จึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปให้ถึงร้านเสริมสวย อย่างไรก็ตาม ยาทาเล็บเจลตัวนี้อาจไม่ค่อยเหมาะกับมือใหม่นัก ในการทำให้แห้งจะต้องใช้เครื่องอบ ซึ่งใช้เวลาในการทำให้แห้งค่อนข้างนาน แต่รับรองเลยว่าผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง
หลายคนไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้ที่เคยทำเล็บมาระดับหนึ่งแล้วก็ตาม ก็อาจจะยังมีความกังวลอยู่บ้างเกี่ยวกับการทำเล็บที่บ้าน ว่าจะออกมาสวยและดูดีเหมือนกับการทำที่ร้านหรือเปล่า แต่ถ้าหากคุณเลือกใช้ยาทาเล็บเจลตัวนี้แล้วล่ะก็ไม่ต้องกังวลเลยล่ะค่ะ เพราะการใช้งานทั้งสะดวกและง่ายดาย เม็ดสีชัดเจนตรงกับตัวอย่าง หากต้องการเพิ่มความเข้มของสีสามารถทาซ้ำหลาย ๆ รอบได้ เนื้อสีเกลี่ยง่ายไม่เป็นคลื่น ช่วยแต่งแต้มเสน่ห์และความงดงามบนปลายนิ้วของคุณให้ออกมาสมบูรณ์แบบได้อย่างหมดจด
ตัวนี้จะแตกต่างจากตัวอื่น ๆ ตรงที่ทั้งรุ่นเป็นสีสันที่มีกากเพชรผสมผสานอยู่ทั้งหมดเลย เรียกได้ว่าทำมาเพื่อคนที่ชื่นชอบความแวววาวของกากเพชรโดยเฉพาะเลยล่ะค่ะ ถึงแม้จะมีเพียงแค่ 20 สี แต่ก็ถือว่าครอบคลุมทุกเฉดสี และมีราคาไม่สูงจนเกินไป แถมยังน่าลองใช้เพื่อฝึกฝีมืออีกด้วย สีที่ทาออกมาสวยตรงตามปก แต่รีวิวจากผู้ใช้จริงบางท่านพบว่าไม่ค่อยคงทนมากนัก ดังนั้น ต้องไม่ลืมลง Base Coat ด้วยนะคะ นอกจากนี้ เนื่องจากมีกากเพชรผสมอยู่จึงควรเขย่าขวดให้กากเพชรกระจายตัวก่อนจะลงสี เพื่อให้งานเล็บออกมาดูดีอย่างที่ใจต้องการค่ะ
สำหรับสาว ๆ ที่กำลังค้นหาสไตล์และสีสันที่ใช่ให้กับเล็บของตัวเองอยู่ แต่ต้องการยาทาเล็บในราคาที่ย่อมเยา เพื่อที่จะได้ลองได้หลาย ๆ แบบ เราขอแนะนำยาทาเล็บเจลตัวนี้เลยค่ะ เพราะนอกจากจะมีสีสันให้เลือกมากมายแล้ว ยังมีโทนสีที่น่าสนใจให้เลือกอีกด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีสะท้อนแสง แบบโทนสีมุกที่ดูเป็นคุณหนู หรือจะเป็นแบบระยิบระยับด้วยเลื่อมกากเพชร ซึ่งไม่ว่าจะแบบไหนก็ล้วนแล้วแต่น่าลองใช้ทั้งนั้นเลยค่ะ นอกจากนี้ เรื่องคุณภาพก็สมราคา เพราะทาเพียงครั้งเดียวก็ปรากฏสีชัดเจนไม่ต้องทาซ้ำหลายรอบเลยล่ะค่ะ
อีกหนึ่งยาทาเล็บเจลที่ใครหลายคนให้ความนิยม ซึ่งมาพร้อมกับหัวแปรงที่ดี มีคุณภาพ ช่วยให้สามารถเกลี่ยสีได้ง่าย ทำให้งานเล็บออกมาสวยอย่างที่คุณต้องการ สีทั้งหมดมีถึง 96 เฉดสี ตั้งแต่สีอ่านไล่ไปจนถึงสีเข้ม และแม้ว่าจะเป็นยาทาเล็บเจลชนิดที่จะต้องผ่านเครื่องอบเพื่อให้สีแห้งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ระยะเวลาที่เครื่องอบจะใช้เพื่อทำให้สีทาเล็บแห้งก็ไม่ได้ยาวนานจนเกินไป เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่ได้มีเวลามากมายก็สามารถเลือกใช้ยาทาเล็บเจลยี่ห้อนี้ได้เช่นกันค่ะ
ถือเป็นยี่ห้อที่มีสีให้เลือกเยอะที่สุดในบรรดาทั้งหมด 10 อันดับที่จัดมา เพราะว่ามีมากสุดถึง 160 สีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหากสาว ๆ คนใดที่เป็นคนถูกใจอะไรยาก หากมาลองเลือกซื้อยาทาเล็บเจลตัวนี้แล้วล่ะก็ เชื่อเลยล่ะค่ะว่ายังไงก็จะต้องเจอสีที่ถูกใจแน่นอน อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป สามารถจับต้องได้ จะเลือกซื้อหลายสีหลายโทนแค่ไหน ก็ยังคงรู้สึกสบายกระเป๋า คุ้มค่าคุ้มราคาแบบสุด ๆ และยังสามารถใช้คู่กับ Top Gel และ Base Gel ได้ทุกรุ่น คุณจึงไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีปัญหา ถ้าหากอยากจะลองเปลี่ยนจากยี่ห้อเดิมมาลองใช้ยี่ห้อนี้ดูบ้าง
ถึงแม้ว่าจะมีโทนสีให้เลือกไม่มากนัก เพราะมีเพียงแค่ 7 สีเท่านั้น แถมส่วนมากยังเป็นโทนสีแดงอีกต่างหาก แต่ความไม่ธรรมดาของยาทาเล็บกึ่งเจลตัวนี้คือลูกเล่นและคุณสมบัติสำคัญ ที่ทำให้ยาทาเล็บปราศจากกลิ่นฉุนที่ทำให้สาว ๆ หลายคนปวดเศียรเวียนเกล้า แล้วแทนที่ด้วยกลิ่นหอมหวาน ๆ แทน จึงสามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องคอยกลั้นหายใจเวลาที่ทาเล็บอีกต่อไป อีกทั้งยังเป็นยาทาเล็บแบบ Peel Off หรือแบบที่สามารถลอกออกเองได้ จึงประหยัดเวลาในการล้างเล็บลงได้อย่างมาก นับเป็นข้อได้เปรียบที่ช่วยกลบข้อด้อยด้านจำนวนสีที่มีไม่มากได้เป็นอย่างดี
สำหรับสาว ๆ คนใดที่อยากจะทำเล็บให้ออกมาดูสวยงาม น่ารักแบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ทางเราขอแนะนำยาทาเล็บกึ่งเจลรุ่นนี้เลยนะคะ เพราะรุ่นนี้เขาคัดสรรมาเฉพาะโทนสีที่สวยที่สุดจากหลากหลายสีสัน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างการแห้งได้ไวและล้างออกได้ง่าย จึงไม่เปลืองเวลาและสามารถเปลี่ยนสีได้บ่อยอย่างที่ต้องการ แถมผู้ผลิตยังให้ความไว้วางใจแก่คุณด้านความปลอดภัยได้ เพราะในกระบวนการผลิตไม่มีสารพิษเจือปน คุณจึงสามารถใช้งานยาทาเล็บตัวนี้ได้อย่างสบายใจหายห่วงเลยล่ะค่ะ เนื้อสีเกลี่ยง่ายเรียบเนียนไปกับหน้าเล็บโดยไม่เป็นคลื่น และสียังชัดเจนอีกด้วยค่ะ
สำหรับสีที่โดดเด่นที่สุดในยาทาเล็บกึ่งเจลตัวนี้จะเป็นสีแดงค่ะ แต่หากพูดถึงโทนของสีแล้วจะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สไตล์ด้วยกัน นั่นคือสไตล์แบบอบอุ่น, แบบคูล, แบบธรรมชาติ ให้คุณได้เลือกสรรเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง เมื่อทาลงบนเล็บแล้วจะดูโดดเด่นเป็นอย่างมาก เพราะเนื้อของยาทาเล็บออกมันวาวราวกับเคลือบด้วยแลกเกอร์ตามชื่อรุ่น แถมยังมีแบบเนื้อมุกที่ช่วยทำให้ดูเรียบหรูมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังผสานคุณค่าจากน้ำมันของผลอาไซอิ ผลไม้จากป่าฝนอะเมซอน ซึ่งอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยในการบำรุงเล็บให้มีสุขภาพดีอยู่เสมออีกด้วยนะคะ
ถือเป็นเทคโนโลยีสูตรเฉพาะของยี่ห้อนี้เลยก็ว่าได้นะคะ สำหรับเทคโนโลยี ProStay ที่ทำให้เล็บของคุณคงความงดงามเอาไว้ได้นานสูงสุด 11 วัน ด้วยจุดเด่นตรงนี้ทำให้ยาทาเล็บแบบกึ่งเจลตัวนี้ปรากฎอยู่ทั่วไปตามร้านเสริมสวย ซึ่งเป็นสิ่งที่การันตีได้เป็นอย่างดีว่าของเขาดีจริง ๆ แถมยังใช้งานได้ง่ายชนิดบอกลาเครื่องอบและคราบเหนียวไปเลย สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากจะลองหาซื้อยาทาเล็บตัวนี้มาลองใช้เองดูบ้าง ทางเราขอแนะนำให้ซื้อตัว Base Coat และ Top Coat ของยี่ห้อเดียวกันมาด้วยนะคะ เพื่อให้มั่นใจว่าเล็บของคุณจะสวยงามคงทนอย่างแท้จริงค่ะ
คุณเคยสงสัยบ้างไหมคะ ว่าทำไมงานเล็บของคนอื่น ๆ ถึงได้มีลวดลายที่ดูสวยงามและประณีตเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อลองพิจารณาดูแล้วการจะใช้เพียงแค่หัวแปรงสร้างลวดลาย ให้มีความเนี้ยบและไร้ที่ติได้ขนาดนั้นค่อนข้างยากเลยทีเดียว เนื่องจากต้องใช้สมาธิและควบคุมมือให้นิ่งสุด ๆ ทว่า ในความจริงแล้วไม่ใช่ทุกคนหรอกนะคะที่จะใช้การวาดลวดลายด้วยหัวแปรงเอง เพราะว่าสำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบในการทำเล็บนั้น มีอุปกรณ์อยู่ตัวหนึ่งที่ช่วยทำให้การสร้างลวดลายเป็นเรื่องง่ายยังไงล่ะคะ
ตัวช่วยที่ว่าก็คือ แสตมป์ปั๊มเล็บที่มาพร้อมกับแผ่นแม่แบบที่ใช้สร้างลวดลายนั่นเอง ! โดยตัวหัวปั๊มมักจะมีสัมผัสที่เรียบลื่นและนุ่มนิ่ม เพื่อให้สาว ๆ สามารถปั๊มสร้างลวดลายบนเล็บได้ง่าย แถมยังมีแม่แบบที่เป็นลวดลายต่าง ๆ มากมาย เพียงแค่นำยาทาเล็บไปปาดลงแล้วใช้แสตมป์ปั๊มเพื่อทำการคัดลอกลวดลาย จากนั้นเอามาปั๊มลงบนเล็บอีกที เท่านี้สาว ๆ ก็สามารถมีเล็บที่แต่งแต้มลวดลายสวยงาม ประณีตได้แล้วล่ะค่ะ
ก็จบกันไปแล้ว สำหรับข้อมูลและเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทางผู้เขียนได้นำมาฝากกัน เกี่ยวกับวิธีการเลือกยาทาเล็บเจลพร้อมกับการจัดอันดับ 10 ยาทาเล็บเจลที่คุณควรลอง ผู้เขียนหวังว่าคุณผู้อ่านจะมียาทาเล็บเจลที่ชอบผุดเข้ามาในใจบ้างหลังจากที่อ่านจบแล้วนะคะ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเลือกซื้อยาทาเล็บเจลใด ๆ คุณจะต้องไม่ลืมสำรวจเกี่ยวกับสุขภาพของเล็บตัวเองก่อนนะคะ ว่าจะสามารถทนทานต่อการทำเล็บเจลได้มากขนาดไหน เพราะยาทาเล็บเจลส่วนมากจะล้างออกยาก แถมต้องใช้การอบร้อนให้แห้งด้วย ถ้าหากเลือกดูไม่ดี อาจจะส่งผลให้เล็บของคุณได้รับผลกระทบจากการทำเล็บได้ ส่วนสาว ๆ คนไหนที่ไม่มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ ก็ขอให้สนุกสนานกับการทำเล็บเจลด้วยตัวเองนะคะ !